1. รู้จัก Bollinger Band

Bollinger Band ประกอบด้วย 3 เส้นหลัก:
- Upper Band (เส้นบน)
- วงกลาง หรือ Pivot Line (เส้นกลาง) – ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่
- Lower Band (เส้นล่าง)
เส้นเหล่านี้จะสร้างกรอบที่ราคาควรเคลื่อนตัวอยู่ภายใน
2. วิธีอ่านสัญญาณจาก Bollinger Band
2.1 ในภาวะเทรนด์ชัด (Trend)
- ภาวะขาขึ้น (Bullish)
- หากราคาปรับลงมาแต่ไม่หลุดใต้ Middle Band → น่าจะขึ้นต่อไปชน Upper Band
- สัญญาณกลับตัว: ดูแท่งเทียน หากปิดต่ำกว่า 50% ของแท่ง แสดงว่าอาจกลับตัวลงมาที่ Middle Band
- ภาวะขาลง (Bearish)
- หากราคาปรับขึ้นแต่ไม่ผ่าน Middle Band → แนวโน้มขาลงยังต่อเนื่อง
- หากแท่งเทียนปิดต่ำกว่า 50% ของตัวเอง หลังจากทะลุ Lower Band → ยืนยันว่าลงต่อ
Time Frame แนะนำ:
- สั้น: 5–15 นาที
- ยาว: ชั่วโมงขึ้นไป
- ส่วนตัวผู้เขียนถนัดกราฟ 30 นาที
2.2 ในช่วงกราฟแบบ Sideway
- Bollinger Bands จะขนานเรียบ
- เมื่อตีนบนเป็นแนวต้าน ราคาจะวิ่งลงมาทดสอบตีนล่าง และกลับขึ้นไป ขึ้น–ลง สลับกัน
- หากเกิด 3 Top/Bottom เกินนี้ ให้ระวังว่ากราฟอาจเบรคแนวข้าง
จุดสังเกตก่อนเบรค:
- เส้น Band บีบเข้าหากัน (คอขวด) เตรียมรับมือกับการวิ่งแรงในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง
3. เสริมด้วย RSI เพื่อกรองสัญญาณ
RSI ช่วยยืนยัน Overbought/Oversold:
- Above 70 → Overbought (เตรียม Sell)
- Below 30 → Oversold (เตรียม Buy)
- Level 50 (Pivot) → หากทะลุขึ้น → Buy ตามแนวโน้มขึ้น ถ้าทะลุลง → Sell ตามแนวโน้มลง
ตัวอย่างใช้งานร่วมกัน:
- กราฟทะลุ Lower Band และ RSI < 30 + แท่งเทียนกลับตัว → เปิด Buy พร้อมตั้ง Stop Loss ที่ Low แท่งก่อนหน้า
- กราฟชน Upper Band + RSI > 70 + แท่งเทียนกลับตัว → เปิด Sell พร้อม Stop Loss ตามจุดสูงสุดก่อนหน้า
4. ข้อแนะนำเพิ่มเติม
- อย่าใช้ Bollinger Band หรือ RSI เพียงอย่างเดียว ควรผสานกับหลัก Elliott Wave หรือ Fibonacci เพื่อหาจุดพักตัว/กลับตัวให้แม่นยำขึ้น
- การควบคุมอารมณ์ (เช่น ความกลัว) สำคัญไม่แพ้เทคนิค หากกลัวจนไม่เข้าเมื่อสัญญาณชัด ก็อาจพลาดโอกาสได้
สรุปขั้นตอนการเทรด
- วิเคราะห์เทรนด์หลัก: ดูกราฟว่ากำลังขึ้น ลง หรือ Sideway
- อ่านสัญญาณ Bollinger Band:
- Trend → รอราคาไม่หลุด Middle Band
- Sideway → เข้าซื้อ/ขายที่ขอบบน–ขอบล่าง
- ตรวจสอบ RSI:
- ซื้อมากเกินไป/ขายมากเกินไป
- Level 50 → ใช้เป็นจุดตัดสินใจตามแนวโน้ม
- จัดการความเสี่ยง: ตั้ง Stop Loss และขนาดล็อตให้เหมาะสม
- เสริมด้วย Elliott Wave หรือ Fibonacci เพื่อเพิ่มความแม่นยำ