เราสามารถเดินเข้าไปที่ธนาคารแล้วขอเทรดค่าเงินได้เลย
เราสามารถเดินเข้าไปที่สถาบันการเงินใหญ่ๆ และขอเปิดพอร์ตการลงทุนได้เช่นกัน
และเราสามารถเปิดบัญชีผ่านระบบอินเตอร์เน็ตผ่านผู้ให้บริการสภาพคล่อง (Liquidity Provider) ได้เหมือนกัน
สุดท้าย เรายังสามารถเปิดบัญชีเทรดค่าเงินผ่านโบรกเกอร์รายย่อยได้อีกด้วย
ในการเทรดค่าเงิน มีรูปแบบการเทรดอยู่สองแบบคือ
1.ใช้เงินจริงๆ ในการซื้อขาย ซื้อเมื่อราคาถูก และขายเมื่อราคามันสูงขึ้นกว่าที่เราซื้อไว้ (Bank , Exchanger)
2.เก็งกำไร เพื่อเอากำไรจากส่วนต่างของราคา โดยผ่านโบรกเกอร์ ซึ่งโบรกเกอร์จะอำนวยความสะดวกทางด้านต้นทุนของราคาให้กับเรา ซึ่งมีการใช้ Leverage เข้ามาช่วย เราเรียกโบรกเกอร์ประเภทนี้ว่า Retail Broker และตัวเราก็คือ Retail Trader

จากรูปด้านบนจะเห็นว่า
ตรงกลาง คือ Central Bank คือธนาคารกลางที่ปล่อย Feed ราคามาให้กับธนาคารต่างๆหรือผู้ให้บริการด้านสภาพคล่อง ซึ่งหมายความว่า ธนาคารกลางเป็นเจ้ามือที่ใหญ่ที่สุด รับกินเองและจัดการความเสี่ยงเองทั้งหมด และให้บริการสภาพคล่องกับสภาบันการเงินต่างๆ
Major Bank หรือ Liquidity Provider จะทำให้หน้าที่รับราคามาจากธนาคารกลาง และทำการเพิ่มสเปรดของราคา (Bid , Ask ) และทำการปล่อยราคาให้กับโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ ซึ่ง Major Bank หรือ Liquidity Provider จะให้บริการด้านสภาพคล่องทางการเงินแก่ Retail Broker เช่นเดียวกัน
Broker จะรับ Feed ราคามาจาก Liquidity Provider ซึ่งโบรกเกอร์จะทำการขยายสเปรด (Markup Spread ) และนำเสนอขายให้กับ Retail Trader อย่างเราๆ ดังนั้น เราจึงได้เทรดในราคาที่มี Spread ซึ่งจะมีราคา Bid และ Ask ต่างกัน ซึ่งขนาดของสเปรด หรือความต่างระหว่างราคา Bid และ ราคา ASK จะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับว่า โบรกเกอร์นั้นๆใช้ Liquidity Provider ทั้งหมดกี่เจ้า และนำราคาที่สุด (Best Price) มานำเสนอให้กับพวกเรา ซึ่งจะเขียนในบทเรียนต่อไป
ตลาดฟอเร็กซ์ (Foreign Exchange Market) คืออะไร
Forex ย่อมาจากคำว่า Foreign Exchange Market) หรือเรียกย่อๆ ว่า FX ซึ่งเป็นตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ โดยอ้างอิงจากสกุลเงินหนึ่ง เทียบกับ สกุลเงินหนึ่ง จนทำให้เกิดกับ "คู่เงิน" หรือที่เรียกกันว่า Currency Pair
ยกตัวอย่างเช่น สหรัฐอเมริกา ใช้สกุลเงินดอลล่าร์เป็นหลัก จะถูกแทนด้วยสัญลักษณ์ USD
และประเทศ ญี่ปุ่น ใช้สกุลเงินเยน เป็นหลัก จะถูกแทนด้วยสัญลักษณ์ JPY
ซึ่งถ้าหากคนญี่ปุ่นจะเดินทางไปสหรัฐ ต้องนำเงินเยนไปแลกเป็นดอลล่าห์สหรัฐ จึงทำให้มีการกำหนด อัตราแลกเปลี่ยน หรือที่เรียกกันว่า Exchange Rate
ซึ่งการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนของเงินเยนและดอลล่าร์สหรัฐ จะถูกกำหนดหรือแปรผันตาม เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น ซึ่งนอกเหนือจากนี้ ยังมีเรื่อง การเมือง และสงคราม มาเกี่ยวข้องอีกด้วย ซึ่งรายละเอียดจะกล่างในบทต่อๆไป
Exchange Rate จะถูกกำหนดด้วยสกุลเงินตัวหน้า หรือที่เรียกว่า Base Currency และสกุลเงินตัวหลัง หรือที่เรียกว่า Quote Currency
ยกตัวอย่างเช่น USD/JPY ดอลล่าห์สหรัฐเทียบกับเงินเยน ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ราคา 111.00 ซึ่งจะหมายความว่า เราต้องมีเงินญี่ปุ่น 111 เยน เพื่อแลกกับ 1 ดอลล่าห์สหรัฐ
Base Currency คือ USD
Quote Currency คือ JPY
จากภาพด้านบน เราจะเห็นว่า สกุลเงิน US ดอลล่าห์มีการซื้อขายและใช้งานมากที่สุด ซึ่งปัจจุบัน มูลค่าการซื้อขายของ US ดอลล่าห์ยังคงครองอันดับหนึ่ง เพราะคนทั่วโลกสามารถใช้ดอลล่าห์สหรัฐเพื่อแลกเปลี่ยนสินค่าได้เกือบทุกประเทศ
มูลค่าการซื้อขายของตลาดฟอเร็กซ์
ตลอดระยะเวลา 10 ที่ผ่านมา มูลค่าการซื้อขายในตลาดฟอเร็กซ์สูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กโทรนิคมากขึ้น ทำให้ผู้คนเข้าถึงการซื้อขายได้ง่ายขึ้น
ปัจจบันมูลค่าการซื้อขายของตลาดฟอเร็กซ์อยู่ที่ประมาณ 5 ล้านเหรียญดอลล่าห์สหรัฐ ต่อ วัน ซึ่งเป็นมูลค่าที่มหาศาลมาก มีทั้งการแลกเปลี่ยนเพื่อการค้าระหว่างประเทศ การแลกเปลี่ยนเพื่อการท่องเที่ยว และการเก็งกำไรของกองทุนใหญ่ๆทั่วโลก ซึ่งทำให้ตลาดฟอเร็กซ์มีความผันผวนมากขึ้น รวมไปถึงการใช้ระบบเทรดเทรดอัตโนมัติของกองทุน Hedge Fund ต่างๆ ทำให้ราคามีความผันผวน เช่น การใช้กลยุทธิ์การเทรดที่เรียกว่า High Frequency Trading ซึ่งเป็นที่นิยมของบรรดากองทุนเฮจฟันด์
ตลาดฟอเร็กซ์ จัดอยู่ในประเภท OTC Market
OTC คือ Over The Counter หรืออาจจะเรียกว่า Off Exchange เป็นตลาดที่ไม่มีศูนย์กลางการแลกเปลี่ยน ซึ่งเทรดเดอร์สามารถซื้อขายได้โดยตรง ผู้ซื้อและผู้ขายสามารถตกลงและต่อรองราคากันได้ตามที่ต้องการ ตลาดฟอเร็กซ์จึงเป็น OTC เพราะไม่มีศูนย์การการซื้อขาย มีเพียงโบรกเกอร์ที่เสนอราคามาให้เราได้เทรดเท่านั้น
ในอเมกาได้มีการกำหนดกฎเกณฑ์ในการซื้อขายนอกตลาดขึ้นเพื่อให้เทรดเดอร์ได้เข้ามาเทรดในตลาด ได้แก่ สมาคมผู้ค้าหลักทรัพย์แห่งชาติ (The National Association of Securities Dealer : NASD) ซึ่งรู้จักกันในชื่อของตลาด NASDAQ นั่นเอง
« Last Edit: 3 years ago by admin »